สถานการณ์โควิด-19 เพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ หลังจากการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 1,004 รายภายในหนึ่งสัปดาห์ (วันที่ 14-20 เมษายน 2567) โดยมีอัตราเฉลี่ยผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวที่ 143 รายต่อวัน
นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร, รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ปัจจุบันและย้ำถึงคำแนะนำจากรัฐบาลที่ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อและรักษาสุขภาพในช่วงที่โรคยังคงแพร่ระบาด
รัฐบาลยืนยันว่าโรงพยาบาลทั่วประเทศมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์, เตียงผู้ป่วย, และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น พร้อมทั้งมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่
รัฐบาลเน้นย้ำให้กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวตรวจสอบสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และหากพบว่าผลตรวจ ATK เป็นบวกให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษ
าที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 รัฐบาลยังแนะนำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการล้างมือบ่อยๆ และการใช้ชีวิตแบบ New Normal โดยเฉพาะในที่สาธารณะที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้โรคระบาดรุนแรงกว่านี้
เพื่อสนับสนุนประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและการดูแลสุขภาพที่ดี กรมควบคุมโรคมีสายด่วน 1422 ที่พร้อมให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ตลอด 24 ชั่วโมง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันและการรักษาโรคให้ใช้บริการนี้
การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและติดตามอย่างใกล้ชิด ด้วยความหวังว่าการดำเนินการต่างๆ ที่ได้วางไว้จะช่วยให้ประเทศสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชากรโดยรวม การใส่ใจและปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือกันและกันในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้